ไอโฟน (iPhone) เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้เชื่อว่าหลายคนทั้งนอกและในวงการเทคโนโลยีต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน เพราะไอโฟนเป็นโทรศัพท์มือถือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพลิกโฉมวงการมือถือและได้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมประจำปีจากนิตยสารไทม์ โดยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของไอโฟนเป็นโทรศัพท์มือถือแบบไร้ปุ่มกดหมายเลขโทรศัพท์ แต่จะมีเพียงปุ่มเดียวที่โดดเด่นรู้จักกันในชื่อปุ่มโฮม (Home) ส่วนการใช้งานจะสั่งการทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสแบบมัลติทัชบนระบบปฏิบัติการที่แอปเปิลพัฒนาขึ้นมาเองเรียกว่า iOS เป็นตัวขับเคลื่อนให้กับไอโฟน ปัจจุบันไอโฟนได้กลายเป็นโทรศัพท์มือถือในฝันของใครหลาย ๆ คนบนโลก
สำหรับไอโฟนรุ่นแรกถูกเผยโฉมโดย สตีฟ จ็อบส์ ในงานแม็คเวิลด์วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 และวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปัจจุบันไอโฟนถูกผลิตออกมาและวางจำหน่ายไปแล้วถึง 12 รุ่น ได้แก่ iPhone (2G), iPhone 3G, iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 5c, iPhone 6, 6 Plus, iPhone 6s และ 6s Plus วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับวิวัฒนาการของไอโฟนแต่ละรุ่น มีความโดดเด่นอย่างไรบ้าง มาติดตามกันเลย
iPhone (2G)
บริษัทแอปเปิล ภายใต้การนำของสตีฟ จ็อบส์ ได้พลิกโฉมและสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการมือถือ เมื่อสตีฟ จ็อบส์ เผยโฉมโทรศัพท์มือถือตัวแรกของแอปเปิลนามว่า "ไอโฟน" ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยที่ทันสมัย ความสามารถของไอโฟนรุ่นแรก ใช้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งเอสเอ็มเอส ท่องอินเทอร์เน็ตผ่านทางซอฟต์แวร์ซาฟารี ค้นหาแผนที่ ฟังเพลง เชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 2.5G quad band GSM และ EDGE, Wi-Fi (802.11b/g) บลูทูธ 2.0 และกล้องถ่ายภาพ 2 ล้านพิกเซล ใช้ซีพียู 412 MHz ARM 11 หน่วยความจำภายใน 4GB/8GB/16GB มีหน้าจอ Capacitive 3.5 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 pixel ส่วนตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม, พลาสติกและกระจก
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 2G กัน
-หน้าจอ 3.5 นิ้ว
-ซีพียู 412 MHz ARM 11 และจีพียู PowerVR MBX
-หน่วยความจำภายใน 4GB/8GB/16GB
-กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล
-เชื่อมต่อ EDGE, Wi-Fi
-วัสดุอะลูมิเนียม, พลาสติกและกระจก
iPhone (3G)
iPhone 3G มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ มีความโค้งมนมากขึ้น ด้านหลังตัวเครื่องถูกเปลี่ยนเป้นสีดำล้วน มีความเงางามและใช้วัสดุเป็นพลาสติกกับกระจก สำหรับ iPhone 3G ถูกเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ในงาน WWDDC 2008 สำหรับความโดดเด่นของรุ่นนี้ถือว่าถูกพัฒนาไปไกลและดีขึ้นกว่าเดิม โดยรองรับการทำงานบนเครือข่าย 3G, ด้านสเปคเหมือนกับ iPhone 2G แต่เพิ่มแรม 128MB ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น ส่วนหน่วยความจำลดเหลือ 8GB/16GB รวมถึงความสามารถในการใช้งานที่หลากหลายขึ้น และที่สำคัญ iPhone 3G มาพร้อมกับ App Store ที่สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้นั่นเอง และตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งสีดำ และสีขาว
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 3G กัน
-รองรับการใช้งาน 3G
-แรม 128MB
-หน่วยความจำลดเหลือ 8GB/16GB
-ดาวน์โหลดแอพฯ ผ่าน App Store
-ตัวเครื่องมีทั้งสีขาว และสีดำ
iPhone (3GS)
iPhone 3GS ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเป็นอีกรุ่นที่ได้กลายเป็นของสะสมของสาวกแอปเปิลหลาย ๆ คน สำหรับ iPhone 3GS เปิดตัวเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ที่งาน WWDC 2009 ด้านดีไซน์ของ iPhone 3GS ยังคงเหมือนกับ 2 รุ่นแรก เน้นความโค้งมนของขอบตัวเครื่อง ส่วนด้านสเปคถูกอัพเดทให้แรงขึ้นกว่าเดิม ใช้ซีพียู Cortex-A8 600MHz, แรม 256MB เพิ่มความละเอียดกล้องถ่ายภาพ 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส ใช้นิ้วแตะเพื่อหาจุดโฟกัส ถ่ายวิดีโอได้ หน่วยความจำภายใน 8GB/16GB/32GB รวมถึงรองรับ 3G ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps และแอพพลิเคชั่นพื้นฐานมากขึ้น เช่น Voice Control (สั่งงานด้วยเสียง)
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 3GS กัน
-ซีพียูใหม่ Cortex-A8 600MHz, แรม 256MB
-จีพียู PowerVR SGX535
-กล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล โฟกัสได้
-หน่วยความจำ 8GB/16GB/32GB
-รองรับ 3G ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps
-Voice Control (สั่งงานด้วยเสียง)
iPhone 4
แอปเปิลกลับมาสร้างความฮือฮาให้กับแฟน ๆ อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว iPhone 4 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ในงาน WWDDC 2010 มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่แบบยกเครื่องทั้งหมด ใช้วัสดุหุ้มขอบด้วยสเตนเลนสตีลไร้ฉนวนซึ่งทำหน้าที่เป็นเสาอากาศของเครื่อง ตัวเครื่องจะอยู่กึ่งกลางระหว่างกระจกอะลูมิโนซิลิเกตชนิดพิเศษที่เพิ่มความแข็งแรงวางไว้สองด้านหน้า-หลัง ส่วนสเปคต่าง ๆ ถูกอัพเกรดให้แรงขึ้นกว่าเดิม ส่วนหน้าจอขนาดเท่าเดิม 3.5 นิ้ว แต่เพิ่มความละเอียดเป็น 960×640 พิกเซล และเรียกหน้าจอแบบใหม่นี้ว่า Retina Display จุดเด่นที่น่าสนใจของ iPhone 4 มาพร้อมกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน FaceTime หรือวิดีโอคอลล์ผ่าน Wi-Fi คุยกันแบบเห็นหน้า และ iPhone 4 เป็นอีกรุ่นที่ขายดีมาก ๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยฮิตกันถล่มทลาย
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 4 กัน
-ซีพียู Apple A4 ความเร็ว 1GHz
-แรม 512MB
-กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
-มีกล้องด้านหน้าสำหรับใช้งาน FaceTime
-หน้าจอ Retina Display ความละเอียดเป็น 960×640 พิกเซล
-ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด
iPhone 4S
หลังยุคของการจากไปของ สตีฟ จ็อบส์ ผู้นำคนสำคัญของแอปเปิล ดูเหมือนทิศทางของแอปเปิลจะเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อไม่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาเอาใจแฟน ๆ ทำให้การเปิดตัว iPhone 4S ถูกวิพากษ์วิจารณ์และส่งผลให้หุ้นของแอปเปิลตก iPhone 4S เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ในงาน Let's talk iPhone ที่สำนักงานใหญ่แอปเปิล และการมาของ iPhone 4S ทำให้เหล่าสาวกของแอปเปิลที่คาดหวังจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ต้องผิดหวังไปตาม ๆ กัน เมื่อหน้าตาของ iPhone 4S นั้นเหมือนกับ iPhone 4 จุดเด่นของ iPhone 4S มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 5 และ iCloud, กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และฟีเจอร์ใหม่ Siri ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่เปรียบได้กับผู้ช่วยที่ทำหน้าที่ในการค้นหาและให้ข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ และจุดนี้เองที่ทำให้ iPhone 4S แตกต่างจาก iPhone 4
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 4S กัน
-ซีพียู Apple A5 Dual-core ความเร็ว 1GHz
-แรม 512MB
-หน่วยความจำสูงสุด 64GB
-กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
-ระบบปฏิบัติการ iOS 5 และ iCloud
-Siri ระบบสั่งงานด้วยเสียง
iPhone 5
iPhone 5 เป็นอีกรุ่นที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ แต่ก็ยังไร้นวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่ดี โดย iPhone 5 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555 ความโดดเด่นของ iPhone 5 ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเอกลักษณ์คล้ายกับ iPhone 4/4S แต่แอปเปิลได้เปลี่ยนวัสดุใหม่เป็นอะลูมิเนียม และกระจก ส่งผลให้ iPhone 5 มีความบางของตัวเครื่องเพียง 7.6 มิลลิเมตร (บางกว่า iPhone 4S ถึง 18%) และมีน้ำหนักเพียง 112 กรัม ทำให้เบากว่าเดิมถึง 20% ด้านหลังตัวเครื่องใช้สีแบบทูโทน ส่วนหน้าจอถูกปรับขนาดเป็น 4 นิ้ว ความละเอียด 1,136x640 พิกเซล ความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เช่น เปลี่ยนจากพอร์ต 30-pin เป็นพอร์ต Lightning, รองรับ 4G LTE, หูฟังแบบใหม่ Earpods, Nano-SIM และกล้องด้านหน้า 1.2 ล้านพิกเซล
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 5 กัน
-ซีพียู Apple A6 ความเร็ว 1.3GHz
-แรม 1GB
- รองรับ 4G LTE
-วัสดุแบบใหม่ อะลูมิเนียม ทำให้บางและน้ำหนักเบา
-กล้องด้านหน้า 1.2 ล้านพิกเซล
-หน้าจอขนาด 4 นิ้ว
-พอร์ตเชื่อมต่อแบบใหม่ Lightning
-หูฟังรุ่นใหม่ Earpods
-Nano-SIM
iPhone 5S
iPhone 5s ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งของ iPhone มาพร้อมชิป Apple A7 (28nm) ที่เป็นระบบ 64-bit ตัวแรกของโลก ที่มีความเร็วกว่า iPhone ทุกรุ่นถึง 40 เท่า ด้านระบบกราฟิกเร็วขึ้นมากถึง 56 เท่า, แรม 1GB พร้อมแฟลชคู่ Dual LED รวมถึงกล้องที่ปรับปรุงใหม่เพิ่มลูกเล่นอีกมากมาย และไฮไลท์เด็ดของ iPhone 5S ก็คือระบบสแกนลายนิ้วมือที่แอปเปิลเรียกว่า "Touch ID Sensor"
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 5S กัน
- ระบบปฏิบัติการ iOS 7
-ซีพียู Apple A7 แบบ 64-Bit ตัวแรกของโลก
-แรม 1GB
-กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชแบบทูโทน
-ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Touch ID)
-แบตเตอรี่อึดขึ้นกว่าเดิม 10% รองรับ Standby ได้ 250 ชั่วโมง
-ตัวเครื่องมีสีใหม่ ได้แก่ สีทอง
iPhone 5C
จากข่าวลือและภาพหลุดตลอดระยะเวลาหลายเดือนเกี่ยวกับ iPhone รุ่นราคาถูก ดูเหมือนจะถูกจับตามองเป็นพิเศษจากสาวกแอปเปิลจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งทางแอปเปิลเองก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าจะไม่ทำ iPhone รุ่นราคาถูก แต่เปิดตัว iPhone 5c เพื่อวางขายแทน iPhone 5 โดยตัวเครื่องของ iPhone 5c ใช้วัสดุเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนตเคลือบหนาทั้งชิ้น ไร้รอยต่อ มาพร้อม 5 สีสันสดใส ได้แก่ สีขาว สีเขียว สีฟ้า สีชมพู และสีเหลือง
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 5C กัน
-สเปคเท่ากับ iPhone 5
-ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นพลาสติก
-มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว สีเขียว สีฟ้า สีชมพู และสีเหลือง
-แบตเตอรี่อึดขึ้นกว่าเดิม
iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2557 แอปเปิลเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นถึง 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ตัวเครื่องมีความโค้งมนและบางกว่า iPhone ทุกรุ่น รวมถึงอัพเกรดสเปคใหม่แรงกว่า iPhone ทุกรุ่นถึง 50 เท่า
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus กัน
-ระบบปฏิบัติการ iOS 8
-ซีพียู Apple A8 แบบ 64-Bit ตัวแรกของโลก
-หน้าจอ Retina HD display มีให้เลือก 2 ขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว
-กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชแบบทูโทน
- iPhone 6 Plus มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ส่วน iPhone 6 ใช้ระบบกันสั่นผ่านซอฟต์แวร์
-ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Touch ID)
-รองรับ NFC จ่ายเงินผ่านมือถือด้วยบริการ Apple Pay
-ใช้งานแนวนอนแบบ iPad
- แบตเตอรี่อึดกว่าเดิมสแตนด์บาย 16 วัน สำหรับ iPhone 6 Plus และ 10 วัน สำหรับ iPhone 6
iPhone 6S และ iPhone 6S Plus
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 แอปเปิลจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว iPhone 6s และ iPhone 6s Plus สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2015
iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ที่มาพร้อมดีไซน์เหมือนเดิม แต่ด้านสเปคถูกอัพเกรดใหม่ให้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะหน้าจอแบบใหม่ที่แอปเปิลเรียกว่า "3D Touch" สามารถแยกน้ำหนักการสัมผัสได้ ทำให้สั่งการทำงานเพื่อไปยังฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้หลากหลายขึ้น พร้อมอัพเกรดกล้องหลังเป็น 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รับกระแสการถ่ายภาพ Selfie
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone 6S และ iPhone 6S Plus กัน
-หน้าจอแบบใหม่ 3D Touch สามารถแยกน้ำหนักการสัมผัสได้ ทำให้สั่งการทำงานเพื่อไปยังฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้หลากหลายขึ้น
-เปลี่ยนวัสดุตัวเครื่องใหม่เป็นอะลูมิเนียมเกรด 7000 ผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ แข็งแรงกว่าอะลูมิเนียมทั่วไปถึง 60%
-ซีพียู Apple A9 เร็วกว่า A8 ถึง 70% และประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้น 90%
-Touch ID ทำงานได้เร็วกว่าเดิม 2 เท่า
-กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช True Tone เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น 50% สามารถทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี รวมถึงเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น
-กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล FaceTime HD พร้อม Retina Flash หน้าจอจะกะพริบเป็นแฟลชช่วยเพิ่มแสงในการถ่ายภาพสว่างขึ้น 3 เท่า
-รองรับการถ่ายและแก้ไขวิดีโอระดับ 4K และมีจำนวนพิกเซลมากกว่า 8 ล้านพิกเซล หรือสูงกว่าวิดีโอ HD 1080p ถึง 4 เท่า
-เรียกใช้งาน Siri ด้วยคำสั่งเสียง "Hey Siri" ทำงานร่วมกับชิปประมวลผล M9
-Live Photos เปลี่ยนภาพนิ่งให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง
-ภาพพื้นหลังเคลื่อนไหวได้
-รองรับ LTE 23 ย่านความถี่ และ LTE-A
-รองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac พร้อม MIMO, Bluetooth 4.2
-iPhone 6s หนาขึ้น 7.1 มม. และน้ำหนัก 143 กรัม, iPhone 6s Plus หนาขึ้น 7.3 มม. และน้ำหนัก 192 กรัม (หนักและหนากว่า iPhone 6/6 Plus)
-ตัวเครื่องสีสันใหม่ เพิ่มสี Rose Gold (ทองชมพู)
iPhone SE
ในที่สุดก็เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPhone จอเล็ก 4 นิ้ว รุ่นอัพเกรด อย่าง iPhone SE ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจผู้ใช้ ที่ยังคงชื่นชอบในขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว และไม่อยากเปลี่ยนเป็น iPhone 6s หรือ 6s Plus ด้วยสาเหตุที่ว่าหน้าจอใหญ่เกินไปนั่นเอง โดยสำหรับ iPhone SE นั้นมาพร้อมกับสเปคที่เรียกได้ว่า แรงไม่แพ้ iPhone 6s เลยทีเดียว โดยในวันนี้ทีมงานเว็บไซต์ Thaimobilecenter ก็ได้รวบรวมข้อมูลสรุปอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับฟีเจอร์เด่นๆ และ สเปคของ iPhone SE รวมถึงราคามาให้ได้ชมกันแล้ว โดยรุ่นนี้จะน่าสนใจแค่ไหน ลองมาชมกันเลยครับ
มาดูสเปคเด่นๆของเจ้าตัว iPhone SE
- ขนาดตัวเครื่อง 123.8x58.6x7.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่อง 113 กรัม
- มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136 x 640 (326ppi)
- ชิปประมวลผล A9 สถาปัตยกรรมแบบ 64 บิต พร้อมโปรเซสเซอร์ร่วม M9
- รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE, Bluetooth 4.2, VoLTE, NFC, GPS และ GLONASS
- รองรับการใช้งาน Touch ID
- กล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน Live Photos
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- รองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 4K
- รองรับการใช้งาน Touch ID
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 9
- มี 4 สีให้เลือกคือ สีทอง, สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, และสีโรสโกลด์
เป็นอย่างไรกันบ้างหลังจากได้เห็นวิวัฒนาการของไอโฟนแต่ละรุ่นไปแล้ว เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ความเอาใจใส่ในเรื่องต่าง ๆ ทั้งด้านการออกแบบ, ฟีเจอร์ในการใช้งาน รวมถึงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว จึงไม่แปลกที่ไอโฟนจะกลายเป็นมือถือขวัญใจของผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าจะออกมากี่รุ่นก็ขายดิบขายดีอยู่เสมอ สุดท้ายแล้วก็ต้องมารอดูกันต่อว่าหลังยุคแอปเปิลไร้สตีฟ จ็อบส์ แล้ว ยุคใหม่ของแอปเปิลภายใต้การนำทัพโดย ทิม คุก มารอดูกันว่าแอปเปิลจะมีนวัตกรรมอะไรเด็ด ๆ ออกมาอวดสายตาชาวโลกอีกบ้างในอนาคต
ที่มา:http://men.kapook.com/view70450.html
http://www.thaimobilecenter.com/article-2558/Evolution-of-iPhone.asp
https://www.beartai.com/news/31872
http://www.meekhao.com/it/evolution-of-iphone
http://mobile.kapook.com/view1618
http://mobile.kapook.com/view1618
พอดีว่าจะซื้อ ไอโฟนพอดีเลย ขอบคุณที่ให้คำแนะนำนะคับ
ตอบลบกำลังใช้อยุ่ดีเลยครับสุดๆ
ตอบลบอ่ออ ดีมากเลยครับบ ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยครับ
ตอบลบแพงอ่ะ
ตอบลบอ่ออออ ค่ะ
ตอบลบHello,
ตอบลบI am writing to see if you would be interested in writing an article for yongyooth59.blogspot.com.
We will pay you a fixed fee to write a piece for your own website. The article should be on topic, relevant, and connected to your business.
If you are interested, please contact me at the Media Top online media agency. I can give you more information about our proposal.
I look forward to hearing from you.
Many thanks,
Regina Soto
Visit us at media-top.com
Media Top