วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัด บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฏหมายและจริยธรรม

แบบฝึกหัด บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฏหมายและจริยธรรม


แบบฝึกหัด

บทที่ 8 (กิจกรรม1)                                                                   กลุ่มที่เรียน  1

รายวิชา    การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                             รหัสวิชา  0026008
ชื่อ นายยงยุทธ สกุล  บุตราช                                                    รหัส  57012310213


คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. “ น ายทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว Cเมื่อนางสาว ทราบเขาก็เลยนำโปรแกรมนี้ ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่  หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ เป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม คือ นาย และนางสาว ไม่ได้ทำการขออนุญาติ นาย อย่างถูกกิจลักษณะ อาจทำให้นาย เสียหายได้ และผิดกฎหมาย คือ  กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law) สาระของกฎหมายนี้มุ่งเน้นให้การคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัว ไม่ให้มีการนำข้อมูลของบุคคลไปใช้ใน
ทางมิชอบ



 2. “ นาย ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตาราต่างๆ อีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย Kเป็นนักเรียนในระดับประถมปลายททำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J ” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ  การกระทำนี้อาจกระทำขึ้นด้วยความสนุกสนาน ไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดความเสื่อมเสียถึงผู้ใด แต่การกระทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อื่น จึงเป็นการทำผิดจริยธรรมโดยตรง ทั้งการปลอมหลักฐาน และการหลอกลวง โดยไม่มีการทำการพิสูจน์ และยืนยันจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถและขาดความน่าเชื่อถือ อาจทำให้ตนเองหมดความน่าเชื่อถือไปด้วย

แบบฝึกหัด บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

 แบบฝึกหัด บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

 แบบฝึกหัด
 บทที่ 7 (กิจกรรม1)                                                                                             กลุ่มที่เรียน  1
 รายวิชา    การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                        รหัสวิชา  0026008
 ชื่อ –สกุล  นายงยุทธ บุตราช                                                                            รหัส  57012310213


คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คืออะไร ?

ตอบ  (Firewall) ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับเครื่องข่ายภายใน (Internet) โดยป้องกันผู้บุกรุก (Intrusion) ที่มาจากเครือข่ายภายนอก หรือเป็นการกำหนดนโยบายการควบคุมการเข้าถึงระหว่างเครือข่าย โดยสามารถกระทำได้โดยวิธีแตกต่างกันไป และแต่ระบบ ไฟร์วอลล์ มีขีดความสามารถในการไม่อนุญาตการ Log in สำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าใช้งานในเครือข่าย แต่ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ใช้งานทั้งภายใน และติดต่อภายนอกเครื่อข่ายได้โดยจำกัดข้อมูลจากภายนอกเคือข่ายไม่ให้เข้ามาในเครือข่าย นับเป็นจุดสังเกตการณ์ตรวจจับและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย เปรียบได้ดังยรมที่ทำหน้าที่เผ้าประตูเมือง

2. จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm,virus computer, spy ware, adware มาอย่างน้อย 1 โปรเเกรม

ตอบ   1) Worm (หนอนอินเตอร์เน็ต) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับโปรแกรมไวรัส แต่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ที่ต่ออยู่บนเครือข่ายด้วยกัน ลักษณะการแพร่กระจายคล้ายตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ แพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอกตัวเองออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม และส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป และสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Outlook Express หรือ Microsoft Outlook เช่น เมื่อมีผู้ส่งอีเมล์และแนบโปรแกรมติดมาด้วย ในส่วนของ Attach file ผู้ใช้สามารถคลิ๊กดูได้ทันที การคลิ๊กเท่ากับเป็นการเรียกโปรแกรมที่ส่งมาให้ทำงาน ถ้าสิ่งที่คลิ๊กเป็นเวิร์ม เวิร์มก็จะแอกทีฟ และเริ่มทำงานทันที โดยจะคัดลอกตัวเองและส่งจดหมายเป็นอีเมล์ไปให้ผู้อื่นอีก ลักษณะของเวิร์มจึงไม่ใช่โปรแกรม ที่เขียนเป็น .exe อย่างเดียว เพราะถ้า .exe อย่างเดียว ผู้ใช้จะเฉลียวใจ และเนื่องจากในโปรแกรมประยุกต์ของไมโครซอฟต์เกือบทุกโปรแกรมสามารถเขียนเป็น สคริปต์ไฟล์ หรือเป็นแมโครโฟล์ เพื่อให้รันสคริปต์หรือแมโครไฟล์ได้ เช่นในเวิร์ดก็จะมีการเขียนแมคโคร ในเอ็กซ์เซลก็เขียนได้เช่นกัน บนแพลตฟอร์มของวินโดว์จึงมีโอกาสที่จะเรียกไฟล์ขึ้นมารันได้หลายวิธี ข้อมูลที่ส่งมาถ้ามีแมคโครติดอยู่ ก็สามารถมีเวิร์มติดมาได้
            2) virus computer (ไวรัส คอมพิวเตอร์) คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อก่อกวนทำลายระบบคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น แผ่นดิสก์ ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจำคอมพิวเตอร์ และเป็นโปรแกรมที่สามารถกระจายจากคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่ง ไปยังคอมพิวเตอร์อีกตัวหนึ่งได้โดยผ่านระบบสื่อสารคอมพิวเตอร์ เช่น โดยผ่านทาง แผ่นบันทึกข้อมูล (Diskette) หรือระบบเครือข่ายข้อมูล  ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์ (แบ่งตามวิธีการติดต่อ)มีดังนี้
           - boot sector viruses จะ copy ตัวมันเองลงบน แผ่น diskette และลงบน boot sector ของ hard disk (boot sector คือตำแหน่งที่เก็บคำสั่งที่จำเป็นต้องใช้เวลาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์) เมื่อเราเปิด หรือreboot เครื่องคอมพิวเตอร์ boot sector viruses ติดต่อได้เพียงจากแผ่น diskette เท่านั้น แต่จะไม่ติดต่อเวลาใช้ไฟล์หรือโปรแกรมร่วมกัน ทุกวันนี้ boot sector viruses ไม่แพร่หลายเหมือนแต่ก่อน เพราะส่วนมากเดี๋ยวนี้เราจะ boot เครื่อง คอมพิวเตอร์จาก hard disk เป็นส่วนใหญ่

3.ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง

ตอบ  ไวรัสคอมพิวเตอร์มี 2 ชนิด ได้เเก่
                1. Application viruses จะมีผลหรือมีการเเพร่กระจายไปยังโปรเเกรมประยุกต์ต่าง เช่น โปรเเกรมประมวลผลคำ word processeng หรือโปรเเกรมตารางคำนวณ เป็นต้น
                2. System viruses ไวรัสชนิดนี้จะติดหรือเเพร่กระจายในโปรเเกรมจำพวกระบบปฏิบัติการ Operating systems หรือโปรเเกรมระบบอื่นๆ โดยไวรัสชนิดนี้มักจะเเพร่เชื้อในขณะที่เปิดเครื่องคอมพวิเตอร์

4. ให้นิสิตบอกทางป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มี่อย่างน้อย 5 ข้อ

ตอบ  1) มีการเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆ อย่างน้อยปีล่ะ 1 ครั้ง        
          2) มีการกำหนดสิทธิการเข้าใช้ระบบในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
          3) มีการเข้ารหัสข้อมูลในคอมพิวเตอร์
          4) มีระเบียบปฏิบัติในการควบคุมอย่างชัดเเจ้งในการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
          5) ให้ความรู้อย่าสม่ำเสมอในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การเตรียมตัวและการป้องกันการบุกรุกของเเฮกเกอร์ เเครกเกอร์ รวมถึงขั้นตอนการดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์เมื่อถูกบุกรุก

5. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบันได้เเก่

ตอบ   1) ICT Gate Keeper เฝ้าระวังพิษภัยอินเทอร์เน็ตบนเครื่อข่ายและวงจรเชื่อมต่อระหว่างประเทศ (Geteway) พัฒนาซอฟต์เเวร์นี้โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กระทรวงไอซีที ได้มอบหมายให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ดำเนินการเพิ่อเฝ้าระวังปิดกั้นข้อมูลไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง
ส่วนเเรก คิดดี้เเค์ปิดกั้นเว็บไซต์อนาจารและเว็บที่ไม่เหมาะสมที่กระทรวงไอซีที มีข้อมูลคาดว่าจะช่วยป้องกันได้ใน ระดับหนึ่ง
ต่อมาเป็ฯส่วนพิเพิลคลีน ติดไอคอนไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะคลิกเข้าไปเมื่อพบภาพลามกอนาจาร ประชาชนจึงสามารถเข้ามีบทบาทช่วยเฝ้าระวังภัยได้
ส่วนสุดท้าย สมาร์ทเกมเมอร์ (Smart Gamer) เเก้ปัญหาการติดเกมส์ และควบคุมการเล่นเกมส์ของเด็กๆ ผู้ปกครอง จะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาของการเล่นเกมส์และช่วยดูแลเรื่องความรุนเเรงของเกมส์แต่ละส่วนควรต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลา
               โปรเเกรมนี้จะพอช่วยบรรเทาปัญหาและเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้งานบนอินเตอร์เน็ตจากผองภัย เช่น กลุ่มเว็บโป๊ ลามกอนาจาร กลุ่มเว็บกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ กลุามเว็บสอนใช้ความรุนเเรง ทารุน สอนเพศศึกศาเเบบผิดๆ ใช้ภาษาหยาบคาย สอนขโมยข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นต้น 

แบบฝึกหัด บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สาระสนเทศในชีวิตประจำวัน

แบบฝึกหัด บทที่6 การประยุกต์ใช้สาระสนเทศในชีวิตประจำวัน

แบบฝึกหัด

บทที่ 6 (กิจกรรม1)                                                                           กลุ่มที่เรียน  1

รายวิชา    การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                       รหัสวิชา  0026008
ชื่อ นายยงยุทธ สกุล บุตราช                                                                                           รหัส  57012310213

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1. การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?

    1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
    2. เทคโนโลยี
    3. สารสนเทศ
    4. พัฒนาการ

2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?

    1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
    2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
    3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
    4. การพยากรณ์อากาศ

3. การฝากถอนเงินผ่านตู้ ATM เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด ?

    1. ระบบอัตโนมัติ
    2. เปลี่ยนรูปเเบบการบริการเป็นเเบบกระจาย
    3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
    4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

4. ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?

    1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
    2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
    3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
    4. ถูกทุกข้อ

5. เทคโนโลยีสารสนเทศหายถึงข้อใด?

    1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
    2. ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
    3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
    4. การนำเอาคอมพวิเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล

6. เครื่องมือที่สำคัญในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?

    1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
    2. สารสนเทศ
    3. คอมพิวเตอร์
    4. ถูกทุกข้อ

7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?

    1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
    2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปลี่อนสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
    3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
    4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างหอพักอาศัยที่มีคุณภาพ

8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?

    1. เครื่องถ่ายเอกสาร
    2. เครื่องโทรสาร
    3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
    4. โทรทัศน์ วิทยุ

9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ?

    1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
    2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดเเวร์ ซอฟต์เเวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
    3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
    4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น

10.  ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
    1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
    2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากเเหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
    3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
    4. ถูกทุกข้อ

แบบฝึกหัด บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ


แบบฝึกหัด บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ




แบบฝึกหัด



บทที่ 5 (กิจกรรม1)                                                                             กลุ่มที่เรียน  1         

รายวิชา    การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                   รหัสวิชา  0026008         
ชื่อ  นายยงยุทธ  สกุล บุตราช                                                              รหัส  57012310213

คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้


1.       จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
          

ตอบ  การวางแผน ค้นหา รวบรวม จัดเก็บ รักษา และส่งต่อแพร่กระจายสารสนเทศไปยังผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงพัฒนาสมรรถนะการบริหารงานและการดำเนินงานขององค์กร สร้างนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้


2.       การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร
         

 ตอบ  1. ความสำคัญต่อบุคคล
      การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพ บุคคลจำเป็นต้องใช้สารสนเทศประกอบการทำงานทุกกระดับ  การจัดเก็บสารสนเทศ ช่วยส่งผลให้ความสามารถในการทำงาน เกิดความประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว                      2. ความสำคัญต่อองค์การการจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์การในด้านการบริหารจัดการ การดำเนินงาน และกฎหมาย ดังนี้                    

            1) ความสำคัญด้านการบริหารจัดการ       
            2) ความสำคัญด้านการดำเนินงาน                     
            3) ความสำคัญด้านกฎหมาย 

3.       พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
         

ตอบ  พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศเป็น 2 ยุค ดังนี้                      
           1. การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ                       
           2. การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์


4.       จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
          

ตอบ  1. ถอนเงินอัตโนมัติ หรือเอทีเอ็ม ( ATM)                        
          2. การใช้อินเตอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารต่างๆ                        
          3. การใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียน



วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อะไรคือยีราฟซิ่ง


ยีราฟซิ่ง

คือ ชื่อเรียกของรถที่แต่งในแนวที่สูง และสวยแต่จะไม่เหมือน ในแนว 4คูณ4 สักเท่าไหรนัก เพราะการแต่งแบบยีราฟนั้น แต่งได้หลากหลาย แต่ส่วนมากนิยมแต่งในแบบ ที่เรียกกันว่า ยีราฟสูงนั้นเอง เพราการแต่งของเจ้ายีราฟนี้ส่วนมากมักเป็นพวกรถกะบะยกสูงที่นิยม นำมาตกแต่งกัน




อย่างเช่นเจ้าคันโหดคันนี้ของสำนัก Panda Zing สำหรับรถกระบะในบ้านเรานั้น โดยปกติก็จะผลิตออกมาอยู่ 2 รุ่น หลักๆ ก็คือ รุ่นปกติ กับรุ่นยกสูงสไตล์ 4x4 โดยสำหรับเจ้ารุ่นยกสูง ส่วนใหญ่ก็จะเน้นและนิยมในการซื้อไปเพื่อการใช้งานแบบลุยๆ กันซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการบุกป่า ขึ้นเขาลงห้วย หรือใช้ในการเดินทางไกลๆ แต่ในปัจจุบันก็เริ่มมีนักแต่งรถหลายๆ ท่านที่นำเจ้ารถกระบะยกสูงของตนเองมาตกแต่งในแนว Racing และนำไปใช้แข่งขันในการแข่งขัน Drag ซึ่งในวงการรถ Drag จะเรียกรถประเภทนี้ว่า ยีราฟ 




ริ่มจากที่ภายนอกกันก่อนเลยครับ ภายนอกเป็นการผสมผสานกันระหว่าง All New D-Max กับ Isuzu MU-X โดยในส่วนของกันชนหน้าได้ยกกันชนและกระจังหน้ามาจาก Isuzu MU-X ทั้งหมด พร้อมทั้งได้มีการเปลี่ยนฝากระโปรงหน้าใหม่เป็นฝาคาร์บอนเคฟล่า ที่ให้ความสวยงามและน้ำหนักที่เบามากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังได้มีการเปลี่ยนประตูทั้ง 4 บาน พร้อมด้วยฝาท้ายและแก๊บหลังให้เป็นวัสดุเคฟล่าอีกเช่นเดียวกัน ตามสไตล์การตกแต่งของทีม Panda Zing ซึ่งงานเคฟล่าภายนอกทั้งหมด เป็นผลงานจากร้านทำ Kevlar ชื่อดังอย่าง Monza Shop อีกทั้งยังได้มีการเพิ่มค้ำ X-Bar ในส่วนท้ายกระบะเพื่อป้องกันการบิดตัวของตัวถังอีกด้วยชิ้นหนึ่ง จบภายนอกด้วยการเปลี่ยนกระจกมองข้างใหม่เป็นของ Craft Square ที่ช่วยเพิ่มอารมณ์ Racing และเพิ่มความสวยงามได้ไม่น้อยเลยทีเดียว




ระบบช่วงล่างกันบ้าง โดยช่วงล่างของ D-Max V-Cross 4x4 คันนี้ เป็นโช๊คอัพ Aztex Force ทั้ง 4 ต้น ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนที่มากขึ้นกว่าเดิม สำหรับล้อแม็กที่ใส่เข้าไปเป็นล้อ Volk TE37ขอบ 18 นิ้ว ที่มาคู่กับยาง Falken TZ01 ในซีรี่ 265/60R18 นอกจากนี้ยังเพิ่มการทรงตัวของตัวรถด้วยกันโคลงหลังของ AC Twin Arm ที่ช่วยให้ช่วงล่างของตัวรถ ฟิตและเฟริมมากขึ้นเลยทีเดียว สุดท้ายกับระบบเบรคก็เล่นของเทพกันอย่าง Endless ในขนาด 6 Pot พร้อมจานดอกไม้กันทั้งหน้าและหลัง ที่เรียกได้ว่าสามารถหยุดรถได้เพียงปลายเท้าแตะเบาๆ เลยหล่ะครับ





และมาดูกันตามติดๆกับสำนัก ทีมชบา เริ่มแรกเรามาชมทางด้านภายนอกของเจ้ารถคันนี้กันก่อนเลย สำหรับ Isuzu D-Max Hilander คันนี้เป็น Generation ที่ 3 ของตระกูล D-Max จากค่าย Isuzu ภายนอกของรถคันนี้ ได้มีการเจาะกันชนหน้าเพื่อใส่ปากแตรรับลมเข้าเครื่องยนต์ จากนั้นจับเข้าคอร์สลดน้ำหนักด้วยการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมากออกหลายส่วนไม่ว่าจะเป็น ฝากระโปรงหน้า แก้มหน้าทั้ง 2 ข้าง และประตูทั้ง 4 บาน ทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นงานเคฟล่าซึ่งเป็นผลงานจาก Monza Shop เกือบลืมไปครับ ในเมื่อประตูถูกเปลี่ยนเป็นวัสดุเคฟล่า กระจกก็ต้องมีการเปลี่ยนมาใช้เป็นวัสดุอะคริลิคด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงจุดนี้มันจะช่วยลดน้ำหนักได้อีกทาง แถมนอกจากจะได้ความเบาแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยได้อีกด้วย ส่วนกระจกมองข้างตามเทรนด์ของชาวรถซิ่งด้วยกระจกมองข้างจาก Craft Square มาประจำการแทนของเดิม ส่วนตรงมุมหลังของหลังคานั้นจะเห็นได้ว่ามีแก๊ปหลังคาร์บอนที่เป็นของ Monza Shop เช่นเดียวกัน ส่วนด้านกระบะนั้นเป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่ และค้ำหลัง X-Barหลายจุด ที่ได้รับการออกแบบโดย Super X by TSC Racing เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับรถแข่ง





ช่วงล่างของเดิมนั้น สำหรับเจ้ารถคันนี้เป็นรุ่นยกสูง เพื่อให้เหมาะสมกับการแข่งขันจึงต้องมีการลดความสูงลงบ้าง โดยเริ่มจากเลือกใช้โช๊คอัพจาก Suncho ปรับแข็ง-อ่อนได้ 9 ระดับ ระบบเบรครถคันนี้เลือกใช้ของStrange มาประจำการในล้อคู่หน้า 4 Pot และล้อคู่หลัง 2 Pot แค่ชื่อของ Strange มั่นใจว่าเอาอยู่อย่างแน่นอนเพราะขึ้นชื่อเรื่องของแต่งสำหรับการแข่งขัน Drag โดยเฉพาะเมื่อรถหล่อทั้งคัน ล้อแม็กซ์ก็ต้องดูดีไม่แพ้กัน โดยล้อคู่หน้า Enkei RPF1 ส่วนล้อคู่หลังเป็นของ WELD Racing RT-S รัดด้วยยาง Nitto NT420S


          
ครบถ้วนกระบวนความสำหรับ D-Max Hilander ในสเต็ป ยีราฟซิ่ง ผลงานจากทีมชบา คันนี้ไม่ธรรมดานะครับ เพราะมีรางวัลเป็นเครื่องการันตีความแรง

นี่ถือว่าเป็นอีก 1 แนวทาง การแต่งของรถกระบะในประเภทยกสูงที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวนะครับ นอกจากภาพลักษณ์จะสวยงาม ชวนมองแล้ว ความแรงของเครื่องยนต์ ก็ต้องบอกว่าไม่แพ้รถกระบะโหลดเตี้ยกันอย่างแน่นอน




ที่มา:http://car.boxzaracing.com/magazine/7897
:http://car.boxzaracing.com/magazine/194
:https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87&rlz=1C1CHMO_thTH549TH549&espv=2&biw=1440&bih=766&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ved=0ahUKEwjs693drfzNAhUHuo8KHVyXBtEQsAQIGQ#tbm=isch&q=%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F+%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87+d+max
:https://www.facebook.com/GIRAFFEZING/
:https://www.facebook.com/%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87-Thailand-549465608490059/


วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร วัดดังเมืองสกล

 

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ริมหนองหาน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จะมีงานมนัสการพระธาตุประจำปี เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือนยี่


พระธาตุเชิงชุม ตั้งหันหน้าไปทางหนองหานที่อยู่ทางทิศตะวันออก เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงสี่เหลี่ยม สูง 24 เมตรเศษ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนบนเป็นทรงบัวเหลี่ยม ไม่มีลวดลายประดับ ที่ฐานเจดีย์ มีซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ซุ้มยอดประตูมีลักษณะเป็นยอดปราสาท ข้างในทึบสร้างด้วยศิลาแลง และหินทรายแดง มีซุ้มประตูหลอกแบบขอม ด้านทิศ เหนือ ใต้ และตะวันตก ซุ้มประตูทางเข้าจริงด้านทิศตะวันออกแต่แรกเริ่มพระธาตุเชิงชุมคงเป็นปราสาทหินทรายศิลปะสมัยขอม ภายในกรอบประตูทางเข้าอุโมงค์ด้านขวามือ มีจารึกพระธาตุเชิงชุมอักษรขอมโบราณ ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ องค์พระธาตุในปัจจุบันเป็นศิลปะล้านช้าง เนื่องจากช่วงที่อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้างแผ่เข้ามาบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙ และได้มีการบูรณะองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่


ภายในพระวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อพระองค์แสน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปเชียงแสน เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร



พระอุโบสถ พ.ศ. 2370 สร้างพระอุโบสถหลังเดิมหรือสิมเก่า มีลักษณะเป็นสิมแบบโถง โครงสร้างเป็นไม้ก่ออิฐถือปูน หลังคาเป็นกระเบื้องไม้แบบเดิม หันหน้าไปทางทิศใต้
ครั้งพระธานีเป็นเจ้าเมือง ภายในมีจิตรกรรมเป็นภาพเถาไม้เลื้อยเป็นแนวรอบอาคาร หน้าบันมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปเทพบุตรและเทพธิดา ดาวประจำยาม มังกรและเถาไม้เลื้อย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ ทั้งที่สร้างด้วยไม้และเป็นปูนปั้น


บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

เป็นบ่อน้ำที่มีมาพร้อมองค์พระธาตุเชิงชุม เดิมมีน้ำพุผุดขึ้นมาเนื่องจากเป็นปลายทางของลำน้ำใต้ดินซึ่งไหลมาจากเทือกเขาภูพาน ผ่านศูนย์ราชการด้านทิศเหนือ ผ่านใจกลางเมืองข้างวัดเหนือ แล้วไหลมาผุดที่นี่ เรียกว่า "ภูน้ำซอด" หรือ "ภูน้ำลอด" แล้วไหลผ่านไปที่สระพังทอง ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ซึ่งอยู่ติดกับวัด เมื่อน้ำน้อยลงเรื่อยๆจึงได้มีการทำผนังกั้นไม่ให้ดินพังลงไป ในอดีตจะมีการนำน้ำจากบ่อน้ำที่นี่ไปประกอบพิธีเมื่อมีพิธีกรรมอันสำคัญต่างๆอีกด้วย


หอกลองหรือหอระฆัง เป็นหอกลองสูงทั้งหมดสามชั้น สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2503 โดยชาวเวียดนามที่ได้มาพำนักอาศัย ณ จังหวัดสกลนคร ร่วมใจกันสร้างขึ้นถวายองค์พระธาตุเชิงชุมเพื่อเป็นพุทธบูชาเพื่อใช้บอกเวลายามต่างๆ


และยังมีอีกมากมายที่เป็นวัดดังของสกลนครที่รอให้ท่านไปสักระบูชาและขอแนะนำว่าต้องมีสักครั้งที่จะได้ไปเยื่อนแดนถิ้นเก่าแก่และสวยงานนี้


ที่มา:https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1
:http://place.thai-tour.com/sakonnakhon/mueangsakonnakhon/174
:http://thai.tourismthailand.org/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1--3784
:http://tinyzone.tv/TravelDetail.aspx?ctpostid=2142
:http://www.danpranipparn.com/web/pratttas/pratta15mini1.html